ทัวร์ไอซ์แลนด์ ตื่นตาธรรมชาติในดินแดนแห่งเปลวไฟและน้ำแข็ง

ไอซ์แลนด์ (Iceland) เป็นประเทศที่หลาย ๆ คนนั้นอาจสับสนกับประเทศไอร์แลนด์ (Ireland) แต่ทั้ง 2 ประเทศนี้ไม่ได้อยู่ใกล้กัน และมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมากอีกด้วย ซึ่งไอซ์แลนด์นั้นเป็นประเทศในกลุ่มนอร์ดิก ส่วนไอร์แลนด์นั้นเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับประเทศอังกฤษนั่นเอง เมื่อพูดถึงไอซ์แลนด์ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าที่นี่ต้องมีแต่น้ำแข็งแน่ ๆ แต่ไม่เลย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทัวร์ไอซ์แลนด์ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามของวิวทิวทัศน์ได้แบบจัดเต็ม และพบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาได้ยากจากที่อื่น

ประเทศไอซ์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งเปลวไฟและน้ำแข็ง เพราะที่นี่ยังมีภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่หลายแห่ง แต่ก็เป็นประเทศที่อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือจนมีธารน้ำแข็งเกิดขึ้น และมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ที่นี่ยังถือเป็นดินแดนที่มีอายุน้อยที่สุด โดยเกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ดันลาวาขึ้นมาตามรอยแยกเมื่อ 70 ล้านปีก่อน กลายเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างแนวแผ่นเปลือกโลกผ่นทวีปอเมริกาเหนือและแผ่นทวีปยูเรเชีย ทำให้ที่นี่ยังเป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับธรณีวิทยาอีกด้วย

5 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนไอซ์แลนด์ ทัวร์ไอซ์แลนด์ กิจกรรมหลากหลาย

การมาเยือนไอซ์แลนด์สำหรับหลาย ๆ คนคือการได้มาเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาชมจากที่อื่นได้ยาก โดยการมาทัวร์ไอซ์แลนด์ ไม่ได้มีเพียงกิจกรรมล่าแสงเหนือเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกเพียบที่ให้คุณได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ซึ่งมีดังนี้

แช่บลูลากูน

สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อเดินทางไปถึงไอซ์แลนด์คือการไปที่บลูลากูน ซึ่งเป็นสปาที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก สามารถเดินทางมาได้สะดวกเพราะอยู่ไม่ห่างจากสนามบิน เพราะไม่ว่าจะเพิ่งเดินทางมาถึงเหนื่อย ๆ อยากจะผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำก็สามารถแวะมาได้ หรือกำลังจะเดินทางไปสนามบินเพื่อกลับก็แวะมาเที่ยวส่งท้ายได้เลย

นั่งเรือดูวาฬ

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเมื่อมาเที่ยวที่ไอซ์แลนด์คือการไปดูวาฬ โดยน่านน้ำนอกชายฝั่งไอซ์แลนด์มีความอุดมสมบูรณ์และมีทั้งวาฬ โลมา สัตว์ทะเลอื่น ๆ อยู่หลายชนิด หลายสายพันธุ์ รับรองว่าคุณจะได้ตื่นตาไปกับวาฬหลาย ๆ สายพันธุ์ที่อาจจะได้เจอ ไม่ว่าจะเป็นวาฬหลังค่อม วาฬมิงก์ หรืออาจจะมีโอกาสได้เห็นวาฬเพชฆาต หรือวาฬสีน้ำเงินเลยด้วยซ้ำ

ขี่สโนว์โมบิล

การขี่สโนว์โมบิลเป็นอีกกิจกรรมที่หลาย ๆ คนมักทำเมื่อได้ไปเยือนพื้นที่ที่มีหิมะหรือธารน้ำแข็ง ซึ่งก็พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาที่ไอซ์แลนด์ ดินแดนแห่งเปลวไฟและน้ำแข็ง ซึ่งทุกท่านจะได้ขี่สโนว์โมบิลท่องเที่ยวไปยังเส้นทางสำคัญเพื่อชมธรรมชาติและหิมะขาวโพลนจนสุดลูกหูลูกตา

ชมถ้ำน้ำแข็ง

ที่ไอซ์แลนด์นั้นเต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง และภูเขาน้ำแข็งมากมาย ใครที่ไปเยือนไอซ์แลนด์ในช่วงฤดูหนาวต้องห้ามพลาดการไปปีนธารน้ำแข็งเพื่อเข้าชมถ้ำน้ำแข็งเลย โดยถ้ำน้ำแข็งในไอซ์แลนด์นั้นจะมีทั้งแบบถ้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และถ้ำที่เกิดจากฝีมือมนุษย์เข้าไปแกะสลักขึ้น โดยถ้ำตามธรรมชาติโดยทั่วไปจะมีน้ำแข็งสีฟ้า แต่อาจจะได้เห็นสีฟ้ามีสีอื่นของเข้ามาเจือปนด้วย เช่น สีดำ สีแดง หรือแม้แต่สีทองแดง

ล่าแสงเหนือ

กิจกรรมที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอนเมื่อมาเที่ยวไอซ์แลนด์คือการไปล่าแสงเหนือ ซึ่งฤดูที่ดีที่สุดในการดูแสงเหนือก็คือฤดูหนาว เพราะมีช่วงกลางคืนยาวนาน แต่ช่วงฤดูหนาวก็เป็นช่วงที่สภาพภูมิอากาศเลวร้ายมากที่สุด ทั้งท้องฟ้าที่ไม่ปลอดโปร่ง เมฆบดบัง แต่สามารถดูพยากรณ์การเกิดสร้างออโรร่ากันได้ตลอด รับรองว่าจ้องได้เห็นแน่นอน

8 สถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติตระการตา ทัวร์ไอซ์แลนด์ ที่ใคร ๆ ก็ต้องชอบ

ชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทัวร์ไอซ์แลนด์ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้คุณในทุก ๆ สถานที่ที่คุณไป เพราะไม่ว่าที่ไหนก็มีความสวยงามแบบสะกดสายตา ซึ่งเราก็ได้เลือกมา 8 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในไอซ์แลนด์ ที่หากมีโอกาสก็ต้องลองไปกันดูสักครั้ง ดังนี้

ทัวร์ไอซ์แลนด์ น้ำพุร้อนสโตรกูร์ (Strokkur Geysir)

กีเซอร์เป็นชื่อเรียกของน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพิ้นดิน ซึ่งต้องอาศัยหลาย ๆ ปัจจัยที่จะทำให้น้ำพุร้อนนั้นพุ่งขึ้นได้สูงมาก โดยเฉพาะชั้นแมกม่าใต้ดินที่มาเจอกับน้ำใต้ดินจนทำให้เดือดและพุ่งขึ้นมาได้ สำหรับกีเซอร์ในไอซแลนด์นั้นมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ที่สโตรกูร์เรียกได้ว่ามีชื่อเสียง และมีผุ้คนนิยมแวะเวียนไปจำนวนมาก เพราะจะมีน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาทุก ๆ 5-10 นาที และสามารถมีความสูงได้ถึง 30 เมตร

รอยเลื่อนแผ่นเปลือกโลกอาลมันนาเกา (Almannagja)

อาลมันนาเกาคือจุดรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียเลื่อนออกจากกันที่สามารถมองเห็นได้บนพื้นดิน โดยกล่าวว่าในทุก ๆ ปีแผ่นเปลือกโลกจะเลื่อนห่างออกจากกันปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติธิงเวลลีร์ (thingvellir national park) นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมรอยยอกนี้ได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งรอยแยกนี้ยังมีอยู่ในน้ำอีกด้วย ซึ่งมีชื่อเรียกว่าซิลฟรา (Silfra)

ชายหาดสีดำเรย์นิสฟายารา (Reynisfjara)

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดให้ผู้คนอยากไปกันมากที่สุดนั่นก็คือชายหาดสีดำ เพราะภาพจำของชายหาดของหลาย ๆ คนนั่นคือชายหาดสีขาวตัดกับท้องทะเลสีฟ้าคราม น้ำใส ๆ แต่ชายหาดสีดำนั้นให้ความรู้สึกไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้มีความน่าค้นหามากขึ้น โดยเม็ดทรายสีดำนี้มาจากการสึกกร่อนของหินหินบะซอลล์ที่ผ่านระยะเวลามาเนิ่นนาน จนกลายเป็นทรายเม็ดเล็ก ๆ เต็มชายหาดแห่งนี้

น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandfoss)

ที่ไอซ์แลนด์นั้นมีน้ำตกอยู่หลายที่ ซึ่งน้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง โดยจุดเด่นของน้ำตกนี้คือนักท่องเที่ยวสามารถเดินอ้อมไปหลังน้ำตกได้ ก็จะมองเห็นม่านน้ำตกจากข้างหลัง ซึ่งเป็นมุมที่สวยแปลกตา และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันด้วย

น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss)

อีกหนึ่งน้ำตกที่มีทั้งความสวยงามและความยิ่งใหญ่คือน้ำตกโกดาฟอสส์ หรือแปลว่าน้ำตกแห่งเทพเจ้า โดยน้ำตกแห่งนี้เป็นทรงเกือกม้า หรือครึ่งวงกลมที่ไหลลงสู่แม่น้ำด้านล่าง ซึ่งที่นี่ก็ยังเป็นน้ำตกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย ซึ่งมีการเล่าว่าประมุขของไอซ์แลนด์ในยุคเปลี่ยนศตวรรษที่ 11 โยนรูปเคารพของเทพเจ้าโบราณลงในน้ำตกแห่งนี้ เพื่อละทิ้งศรัทธาเดิมและหันมานับถือศาสนาคริสต์

ปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater)

เป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว ซึ่งตรงกลางปล่องได้กลายเป็นทะเลสาบ โดยเคริดนั้นเป็นปล่องภูเขาไฟที่อายุน้อยที่สุด ซึ่งก่อตัวขึ้นจากการปะทุเมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว ความน่าสนใจของปล่องภูเขาไฟแห่งนี้ คือหินสีแดงเข้มที่ตัดกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทั้งน้ำสีฟ้าคราม และมอสสีเขียวที่ขึ้นตามหุบเขา หากไปในช่วงหน้าร้อนก็จะพบกับหิมะที่ปกคลุมไปทั่ว

ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon)

โจกุลซาลอนเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ ทะเลสาบธารน้ำแข็งแห่งนี้เกิดขึ้นจากการละลายของธารน้ำแข็งตามธรรมชาติ ซึ่งในปัจจุบันนี้สภาวะโลกรวนก็ทำให้ทะเลสาบธารน้ำแข็งขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ นอกจากการมาชมก้อนน้ำแข็งที่ไหลมาตามสายน้ำ บ้างก็พัดเข้าฝั่งกระทบกับแสงอาทิตย์ส่องแสงระยิบระยับออกมาเป็นกับอัญมณี ก็ยังได้พบกับสัตว์โลกมากมายทั้งนกนานาพันธุ์ และแมวน้ำที่นอนอยู่บนก้อนน้ำแข็ง

ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล (Crystal Ice Cave)

การมาเยี่ยมชมไอซ์แลนด์อีกหนึ่งพื้นที่ห้ามพลาดนั่นก็คือการมาเที่ยวถ้ำน้ำแข็งคริสตัล ถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามตระการตาในเมืองสตัฟทาเฟล (Skaftafell) ที่มีความสวยงามราวกับเมืองอัญมณีในเทพนิยาย โดยทั้งถ้ำนั้นมีสีฟ้า และมีสีอื่นเข้ามาเจือปนเช่นสีดำ โดยถ้ำจะมีรูปร่างที่ไม่แน่นอน เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเข้าชมถ้ำคือฤดูหนาว

แพ็คเกจทัวร์ไอซ์แลนด์

VCEURO010 ไอซ์แลนด์ 12 วัน แกรนด์ชุดใหญ่ winter&summer

228,800 ฿

รายละเอียด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ทัวร์ไอซ์แลนด์

เที่ยวไอซ์แลนด์ช่วงไหนดีที่สุด?

หากจุดมุ่งหมายสำคัญของการมาเที่ยวไอซ์แลนด์คือการดูแสงเหนือ หรือไปชมธารน้ำแข็ง ถ้ำน้ำแข็ง ในช่วงเดือนตุลาคมถึงช่วงเดือนมีนาคมก็เป็นช่วงที่เหมาะสมมากที่สุด

สภาพอากาศในไอซ์แลนด์เป็นอย่างไรบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

สภาพอากาศในไอซ์แลนด์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงฤดูหนาวอาจมีหิมะตกตลอดเวลา จึงควรเตรียมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นได้ดีไปให้เพียงพอ และควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับกันลมกันฝนไปด้วย

การเดินทางท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์เป็นอย่างไร?

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์โดยส่วนมากเป็นเส้นทางธรรมชาติ การเช่ารถขับจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยต้องมีใบขับขี่สากลสำหรับการเช่ารถ และขับรถ