อิตาลีเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจในหลากหลายด้านทั้งในด้านประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อีกทั้งในด้านภูมิศาสตร์ก็ยังมีความหลากหลาย ทั้งแบบเทือกเขา ไปจนถึงชายหาด หรือหมู่เกาะ การท่องเที่ยวอิตาลีนั้นไม่มีเบื่อแน่นอน เพราะแต่ละภูมิภาคก็มีของดีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไป เที่ยวอิตาลี 7 วัน กับการท่องเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศในอุทยานแห่งชาติโดโลไมต์ โดยเทือกเขาโดโลไมต์ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาวอยู่ในแคว้นทางตอนเหนือของอิตาลี โดยมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 5 จังหวัดด้วยกัน เป็นดินแดนสวรรค์ และความใฝ่ฝันของนักเดินทางหลาย ๆ คน หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ อยากพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ ที่เมืองตากอากาศ นี่คือจุดหมายปลายทางที่คุณต้องลองมาสักครั้ง
ไปอุทยานโดโลไมต์ เที่ยวอิตาลี 7 วัน เที่ยวที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรดี
โดโลไมต์ (Dolomite) เป็นเทือกเขาที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทือกเขาที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก เป็นเทือกเขาหินปูนที่มีความสำคัญต่อการค้นคว้าหินปูนโดโลไมต์ และยังมีความสำคัญในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวโลกอีกด้วย ซึ่งที่นี่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์กรยูเนสโกในปี 2009 สำหรับการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติโดโลไมต์ มีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง และยังมีกิจกรรมให้ได้ทำกันอีกมากมาย การเที่ยวอิตาลี 7 วันที่นี่ รับรองว่าจะไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวดังนี้
- สามยอดเขา (Three Peaks of Lavaredo)
ภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของโดโลไมต์ เป็นภูเขา 3 ลูกที่วางเรียงกันในแนวตะวันออกไปตะวันตก โดยมีชื่อเรียงเรียกกัน ได้แก่ little peak ความสูง 2,857 เมตร big peak ความสูง 2,999 เมตร และ western peak ความสูง 2,973 เมตร และยังเป็นภูเขาที่อยู่ในเขตของมรดกโลกอีกด้วย
- ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies)
ทะเลสาบที่มีความสวยงามและใหญ่ที่สุดในโดโลไมต์ เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกเม็ดงามของที่นี่เลย ด้วยน้ำในทะเลสาบที่เขียวมรกต และยังใสจนสะท้อนเป็นกระจกได้ อีกทั้งมีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูน รายล้อมได้ด้วยต้นไม้สีเขา เป็นสถานที่ที่สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่ง จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาที่แห่งนี้
- ทะเลสาบมิซูรีนา (Lake Misurina)
ทะเลสาบตามแนวเทือกเขาแอลป์ที่มีน้ำใสราวกระจก จนสะท้อนภาพภูเขาลงบนผืนน้ำที่งดงาม เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ใคร ๆ มาโดโลไมต์จะต้องแวะมา โดยในช่วงฤดูร้อนมักจะมีผู้คนมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการอาบแดด พายเรือ ตกปลา ส่วนในช่วงฤดูหนาว ที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่เล่นสกีชื่อดังเลย เพราะมีลานเล่นสกีอยู่ไม่ไกล และรอบ ๆ ทะเลสาบก็มีร้านอุปกรณ์เล่นสกีตั้งอยู่มากมาย
- หมู่บ้านแอลป์ดิซูซี (Alpe di Siusi)
หมู่บ้านทุ่งหญ้าอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุด และสวยงามที่สุดในยุโรป เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งสำหรับการมาเยือนโดโลไมต์ โดยที่นี่เป็นทุ่งหญ้ากว้างที่มีหมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความงดงาม โดยในช่วงฤดูหนาวมักจะมีผู้คนมาเยี่ยมเยือนเพื่อเล่นสกี ส่วนในฤดูร้อนมักจะเป็นการเดินป่าไปตามเส้นทางธรรมชาติ
- ยอดเขาเซเซดา (Seceda)
จุดชมวิวที่พีคที่สุดในโดโลไมต์ เป็นจุดที่สามารถนั่งกระเช้าขึ้นมาชมความงามที่นี่ได้ โดยยอดเขาแห่งนี้มีลักษณะการวางตัวแบบลาดเอียง โดยด้านหนึ่งเป็นผาหินปูน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทุ่งหญ้า โดยมีการตั้งสมญานามที่แห่งนี้ว่า Flame Frozen in Stone ด้วยลักษณะของยอดเนินที่คล้ายกับเปลวไฟที่แข็งเป็นหิน หรือบางคนก็บอกว่าที่แห่งนี้เหมือนกับฟันของฉลาม หรือมงกุฎอีกด้วย
เที่ยวอิตาลี 7 วัน ทำกิจกรรมอะไรได้บ้างที่โดโลไมต์
การมาเที่ยวที่โดโลไมต์นั้นมีกิจกรรมให้ได้ทำกันอีกมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่มาท่องเที่ยวกันด้วย หากมาในช่วงฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ หรือฤดูใบไม้ร่วง อาจจะเป็นการเดินท่องเที่ยวชมความงามของธรรมชาติ ส่วนในฤดูหนาว หรือช่วงที่หิมะเริ่มตก ก็จะเป็นการเล่นสกี ทำกิจกรรมกลางหิมะ เป็นต้น ซึ่งยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจในการเที่ยวอิตาลี 7 วันอีกดังนี้
- เดินป่า: การเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่ต้องทำเมื่อมาโดโลไมต์ โดยที่นี่มีความยากง่าย ระยะทางในการเดินหลายระดับให้ได้เลือก ซึ่งคุณจะได้ชมบรรยากาศระหว่างทางที่มีความสวยงาม ตั้งแต่ที่ราบทุ่งหญ้า ไปจนการปีนป่ายตามแนวทิวเขา
- ปีนเขา: ใครที่ชอบกิจกรรมการปีนเขา ที่นี่เปรียบเหมือนสวรรค์ของนักปีนเขาเลย โดยที่โดโลไมต์นั้นมีแนวเขาและหน้าผามากมายหลากหลายเส้นทางการปีนเขาให้ได้เลือก ซึ่งก็มีตั้งแต่เส้นทางสำหรับมือใหม่ ไปจนเส้นทางของมือโปร ซึ่งใครที่ชอบการผจญภัย ความแอดเวนเจอร์ในการท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดกิจกรรมนี้
- ปั่นจักรยาน: หากใครที่ไม่ชอบการเดิน ที่นี่ก็ยังมีเส้นทางสำหรับการปั่นจักรยาน ที่จะให้คุณได้ชมทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งแนวเขา ป่าไม้ สายน้ำ และอาจจะได้พบกับสัตว์ป่า สามารถปั่นกันได้แบบชิลล์ ๆ ชมธรรมชาติพร้อมสูดอากาศดี ๆ ได้อย่างเต็มปอด
- กีฬาฤดูหนาว: สำหรับในช่วงฤดูหนาว พื้นที่ส่วนใหญ่ในโดโลไมต์จะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน หลาย ๆ ที่จะมีการจัดกิจกรรมสำหรับฤดูหนาว โดยเฉพาะบริการเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใครชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางหิมะต้องชื่นชอบ
- พักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศ: โดโลไมต์ถือว่าเป็นสถานที่ตากอากาศที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งเลย สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย มาเติมเต็มกับบรรยากาศดี ๆ อากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติของที่นี่จะช่วยฟื้นฟูจิตใจ และเติมพลังให้คุณได้อย่างแน่นอน โดยที่พักต่าง ๆ ก็ยังมีบริการนวดสปา แช่น้ำร้อน หรือซาวน่าให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่
เมืองน่าเที่ยวใกล้โดโลไมต์ พักผ่อนได้ชิลล์ ๆ เที่ยวอิตาลี 7 วัน
เนื่องจากโดโลไมต์นั้นครอบคลุมพื้นที่หลาย ๆ จังหวัด การเดินทางไปที่โดโลไมต์นั้นก็มีหลายเส้นทางด้วยกัน ซึ่ง เที่ยวอิตาลี 7 วัน ยังมีเมืองให้ได้แวะท่องเที่ยวกับบรรยากาศสบาย ๆ ซึ่งได้ชมความงามและสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นกันอย่างแน่นอน โดยมีเมืองที่แนะนำดังนี้
- โบลซาโน (Bolzano)
เมืองหลวงของภูมิภาคไทโรลใต้ เมืองนี้เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมต์ ซึ่งที่นี่เป็นการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมอิตาลี และเยอรมัน เนื่องจากในอดีตเป็นพื้นที่ที่มีคนเชื้อสายเยอรมันอาศัยอยู่ ก่อนที่จะมีคนอิตาลีเข้ามา โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง เช่น Bolzano Cathedral, Dominican Church, South Tyrol Museum of Archaeology, Piazza Walther เป็นต้น
- คอร์ตินา ดัมเปซโซ (Cortina d’Ampezzo)
เมืองเล็ก ๆ ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติของเทือกโดโลไมต์ ซึ่งเมืองแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นราชินีแห่งโดโลไมต์ เป็นอีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนและมาเล่นสกีกันในฤดูหนาว เป็นเมืองที่มีบ้านพักตากอากาศ สกีรีสอร์ตชั้นนำของโลกอยู่หลายแห่ง ซึ่งที่นี่ยังอยู่ใกล้กับจุดถ่ายรูป Three Peaks of Lavaredo อีกด้วย
- ออร์ติเซ (Ortisei)
อีกหนึ่งเมืองที่เป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมต์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาวาลกาเดนา ที่นี่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักไม้ และยังมีความโดดเด่นในด้านของสถาปัตยกรรมสีสันพาสเทล ที่สวยงามราวกับบ้านตุ๊กตา ซึ่งที่นี่ยังอยู่ใกล้กับหมู่บ้านแอลป์ดิซูซี
สรุป
สำหรับการเที่ยวอิตาลี 7 วัน โดยการเลือกมาเที่ยวที่โดโลไมต์ จะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่คุณเคยเที่ยวอิตาลีตามเมืองหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เพราะที่นี่มีทั้งความสวยงาม และมีกิจกรรมสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมาเที่ยวในช่วงฤดูไหนก็ได้รับบรรยากาศดี ๆ พร้อมการพักผ่อนเต็มที่ในธรรมชาติแสนบริสุทธิ์กลับไปอย่างแน่นอน ถ้าได้ไปกันดูสักครั้ง รับรองว่าจะต้องติดใจ
