FUNNYTRIP HOLIDAY

ใบอนุญาตเลขที่ 11/05632

โทร : 02-8961001-2

โทร : 02-8977244-5

เที่ยวอิตาลี 10 วัน ลงไปอิตาลีใต้ สำรวจความงามชายฝั่งอมาลฟี่

เที่ยวอิตาลี 10 วัน
สารบัญ

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวอิตาลี หลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงเมืองหลักอย่างโรม ฟลอเรนซ์ เวนิส และมิลาน ซึ่งเมืองต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมา ล้วนเป็นเมืองที่มีสถานที่สำคัญ อันเป็นแลนด์มาร์กหลักของการท่องเที่ยวที่เมื่อใครมาอิตาลีก็ต้องห้ามพลาด แต่สำหรับใครที่เที่ยวเมืองเหล่านี้กันบ่อย ๆ แล้ว การเปลี่ยนบรรยากาศจากเมืองหลัก ไปเที่ยวยังสถานที่ Unseen หรือเมืองที่ไม่ได้เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว เราขอแนะนำอิตาลีทางตอนใต้ เที่ยวอิตาลี 10 วัน สำรวจความสวยงามของเมืองชายฝั่งทะเล ซึ่งเมืองต่าง ๆ ก็ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่เช่นกัน และกำลังกลายเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปพักตากอากาศริมทะเล

อิตาลี Unseen เที่ยวอิตาลี 10 วัน

อิตาลี Unseen เที่ยวอิตาลี 10 วัน เมืองชายฝั่งต้องเที่ยวฤดูไหน?

ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวทะเล ริมชายหาด ไปยังเกาะต่าง ๆ คุณจะนึกถึงการท่องเที่ยวในฤดูไหน? แน่นอนว่าหลาย ๆ คนต้องตอบว่าเป็นฤดูร้อน เพราะเหมาะแก่การทำกิจกรรมริมชายหาด เดินเล่น อาบแดด เล่นน้ำ พายเรือ หรือกิจกรรมอื่น ๆ เที่ยวอิตาลี 10 วัน กับเมืองชายฝั่งของอิตาลี คุณจะได้ทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของที่นี่ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากเมืองต่าง ๆ มาเที่ยวพักผ่อนกัน รวมถึงนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ด้วย แต่เมื่อพูดถึงหน้าร้อนแล้วคนไทยแบบเราก็คงจะไม่อยากมาเที่ยวสักเท่าไหร่ เพราะฤดูร้อนที่อิตาลีถือว่าร้อนไม่ต่างจากไทยเลย แถมยังเป็นอากาศร้อนแบบแห้ง ๆ ไม่เหมือนที่ไทย ซึ่งจะไปหาความเย็นจากที่ไหนก็หาได้ยาก คนเลยนิยมมาเที่ยวทะเลกันในช่วงนี้ เพื่อให้ลมเย็น ๆ ได้พัดผ่านผิวกายช่วยคลายร้อนกันได้บ้าง หากใครอยากหนีร้อนจากไทยไปเจอร้อนแบบอิตาลีก็ลองดูได้ แต่จะเที่ยวในฤดูอื่นก็ได้เช่นกัน โดยฤดูกาลต่าง ๆ ในอิตาลีเป็นดังนี้

  • ฤดูใบไม้ผลิ: ช่วงนี้อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น แต่ยังเย็นสบาย มีฝนตกเล็กน้อยอยู่ในหลายพื้นที่ ดอกไม้เริ่มบานสะพรั่ง ทำให้ช่วงนี้เหมาะกับการเดินป่า ชมธรรมชาติ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่เยอะเกินไป
  • ฤดูร้อน: ฤดูแห่งการท่องเที่ยวของยุโรป เหมาะกับการเที่ยวทะเลและทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยอุณหภูมิในช่วงนี้จะอยู่ที่ 25-35 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความร้อนมาก ทำให้ผู้คนนิยมไปเที่ยวทะเล
  • ฤดูใบไม้ร่วง: อากาศเริ่มกลับมาเย็นอีกครั้ง ใบไม้ต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนสี เหมาะกับการท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เดินชมเมือง และเพลิดเพลินกับเทศกาลเก็บเกี่ยวผลิตผล
  • ฤดูหนาว: ช่วงเวลาแห่งเทศกาลคริสต์มาส และการเล่นกีฬาฤดูหนาวอย่างสกี สโนว์บอร์ด ในช่วงนี้ทางเหนือของอิตาลีจะมีหิมะตก โดยเฉพาะเทือกเขาแอลป์ และโดโลไมต์ ที่ผู้คนมักจะไปเที่ยวสกีรีสอร์ต ส่วนเมืองริมทะเลต่าง ๆ ร้านค้ามักจะปิดกันเป็นจำนวนมาก
Slow Life ในอิตาลีใต้ เที่ยวอิตาลี 10 วัน

Slow Life ในอิตาลีใต้ เที่ยวอิตาลี 10 วัน ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยว

อิตาลีใต้เป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนในช่วงพักร้อน เป็นดินแดนชายฝั่งที่เหมาะกับการมาพักผ่อนมากที่สุด เพราะได้เจอกับสถานที่สวย ๆ น้ำทะเลใส ๆ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เที่ยวอิตาลี 10 วัน สำรวจชายฝั่งอมาลฟี่ไปยังเมืองต่าง ๆ ดังนี้

  • อมาลฟี่ (Amalfi)
    หนึ่งในจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวชายฝั่งอมาลฟี่ โดยที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ ริมชายฝั่งที่มีความสวยงามของธรรมชาติ บรรยากาศที่โรแมนติกของเมืองตากอากาศ และยังมีการผสมผสานกับประวัติศาสตร์ของเมืองได้อย่างลงตัว ที่อมาลฟี่ทุกท่านสามารถเดินท่องเที่ยวชมความสวยงามของเมือง หรือจะนั่งเรือชมชายฝั่งก็ได้ มีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น
    ชายหาดอมาลฟี่ (Amalfi Beach): ชายหาดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม พร้อมกับน้ำทะเลสีฟ้า เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน นอนอาบแดด ว่ายน้ำ หรือจะนั่งชิลล์ในร้านอาหาร คาเฟ่ริมชายหาดเพื่อชมความงาม
    มหาวิหารอันดรอว์แห่งอมาลฟี่ (Amalfi Cathedral): มหาวิหารที่ถูกผสมผสานไปด้วยสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ ทั้งแบบโรมาเนสก์ บาโรค และโรโคโค่ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งมีความโดดเด่นด้วยบันไดหินอ่อนขนาดใหญ่
    พิพิธภัณฑ์กระดาษโบราณ (Museum of Handmade Paper): ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางของการผลิตกระดาษแบบโบราณในช่วงยุคกลาง จึงมีพิพิธภัณฑ์ที่ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้การทำกระดาษแบบดั้งเดิม พร้อมทดลองทำกระดาษกันได้ด้วยตนเอง
  • โปซีตาโน (Positano)
    เมืองนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความสวยงามมากที่สุดในชายฝั่งอมาลฟี่ ด้วยความโดดเด่นของบ้านเรือน อาคารต่าง ๆ บนเนินเขาที่มีสีสันสวยงาม และยังมีการตั้งลดหลั่นกันลงมาสู่ทะเล โดยที่เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของ 3 ชายหาดหลักที่ผู้คนที่นิยมมาทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน โดยมีสถานที่แลนด์มาร์กดังนี้
    ชายหาดหลักของโปซีตาโน (Spiaggia Grande): ชายหาดซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยว และจุดถ่ายรูปยอดนิยม ที่ทำให้คุณมองเห็นภาพบ้านเรือนริมเขาที่ลดหลั่นลงมาได้อย่างงดงาม พร้อมทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ที่นี่
    เส้นทางแห่งเทพเจ้า (Path of the Gods): เส้นทางเดินป่ายอดนิยมที่ทำให้คุณได้เห็นวิวสุดตระการตาของชายฝั่งอมาลฟี่ได้อย่างรอบทิศทาง
    โบสถ์ซานตามาเมียอัสซุนตา (Santa Maria Assunta Church): โบสถ์เก่าแก่ของเมืองโปซีตาโน ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่กระเบื้องโมเสกสีเหลือง เขียว น้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ริมชายหาดอันงดงาม
  • ซอเรนโต (Sorrento)
    เมืองขนาดเล็กที่เป็นประตูสู่เมืองอื่น ๆ ในชายฝั่งอมาลฟี่ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดทะเลในอ่าวเนเปิลส์ ตัวเมืองนั้นมีความเก่าแก่มานาน เป็นอีกเมืองที่แต่เดิมแล้วเศรษฐกิจต่าง ๆ นั้นขึ้นอยู่กับการค้าขายทางทะเล ท่าเรือจึงมีความสำคัญของเมืองนี้มาก โดยมีสถานที่สำคัญต่าง ๆ ดังนี้
    ท่าเรือหลักของซอเรนโต (Marina Grande): ท่าเรือที่เงียบสงบ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเมืองแห่งนี้ที่ทำการค้าขายมาอย่างยาวนาน เป็นอีกจุดที่เหมาะกับการสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเมือง และยังมีร้านอาหารทะเลอยู่มากมายในบริเวณนี้
    สวนสาธารณะ (Villa Comunale): สวนสาธารณะสุดโรแมนติก ที่คู่รักมักมานั่งชมวิวทะเล และวิวพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งที่นี่มองเห็นทั้งอ่าวเนเปิลส์ และเกาะคาปรี เมื่อมองไปไกล ๆ หากท้องฟ้าแจ่มใสก็ยังเห็นภูเขาไฟวิซูเวียสได้อีกด้วย
    สระน้ำทะเล (Baths of Queen Giovanna): ส่วนหนึ่งของคาบสมุทรซอเรนโตที่ถูกปิดกั้นโดยแนวผา จนทำให้เกิดเป็นสระน้ำทะเลสีสวย เป็นอีกสถานที่ของการว่ายน้ำผ่อนคลายที่ห้ามพลาด
  • ราเวลโล (Ravello)
    เมืองริมผาสูง 365 เมตร ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเราจะเห็นภาพของเมืองแห่งนี้ได้ตามโปสการ์ด หรือสำหรับโปรโมทการท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งเมืองที่โดดเด่นของชายฝั่งอมาลฟี่ โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือน ดังนี้
    วิลล่ารูโฟโล (Villa Rufolo): คฤหาสน์บนหน้าผาริมทะเลที่เป็นสถาปัตยกรรมโบราณ มีสวนดอกไม้ที่สวยงาม วึ่งจุดชมวิวแห่งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองราเวลโล
    วิลล่าซิมโบรเน (Villa Cimbrone): วิลล่าเก่าแก่ในเมืองราเวลโล เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการจัดงานแต่ง โดยที่นี่ยังมีสวนสวยและเป็นจุดชมวิวอันโด่งดัง
    มหาวิหารราเวลโล (Ravello Cathedral): มหาวิหารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลรูโฟโล เป็นการผสมผสานของศิลปะสไตล์บาโรคและโรมาเนสก์
  • คาปรี (Capri)
    เกาะที่แม้ไม่ได้อยู่ริมชายฝั่งอมาลฟี่ แต่เป็นอีกจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน เรียกได้เป็นสวรรค์แห่งท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งที่นี่ยังเป็นแหล่งที่พักตากอากาศของเหล่าดาราคนดังระดับโลกมากมายอีกด้วย ซึ่งมีสถานที่สำคัญ เช่น
    ถ้ำมรกต (Blue Grotto): ถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล โดยถ้ำนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของน้ำทะเลที่มีสีฟ้าเข้มเปล่งประกายท่ามกลางความมืดของถ้ำ ซึ่งมีความสวยงามมากทีเดียว
    ถนนเวียร์คุปป์ (Via krupp): เส้นทางเดินเท้าที่มีความสวยงาม ถูกสร้างให้คดเคี้ยวไปมา เป็นอีกทางเดินที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของทะเล
    สวนออกัสตัส (Augustus Garden): สวนที่มีต้นไม้ ดอกไม้นานาพรรณ มีความสวยงาม และร่มรื่น พร้อมทั้งมองเห็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีน้ำเงินเข้มตัดกับแสงแดดส่องแสงระยิบระยับ ดูสวยงาม

สรุป

สำหรับการท่องเที่ยวอิตาลี 10 วัน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ทางตอนใต้ของอิตาลี ตามแนวชายฝั่งอมาลฟี่ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการพักตากอากาศที่สำคัญในช่วงฤดูร้อน ถือว่าเป็นประสบการณ์สุดแสนพิเศษที่หากอยากสัมผัสการท่องเที่ยวแบบคนในแถบยุโรป ก็ต้องลองไปกันดูสักครั้งว่าเป็นอย่างไร โดยเมืองต่าง ๆ ในแถบชายฝั่งอมาลฟี่ และอิตาลีใต้ยังมีอีกหลายเมืองรอให้คุณเข้าไปสัมผัส หากอยากลองไปเที่ยวในที่ใหม่ ๆ ไม่ใช่อิตาลีในเมืองหลัก ก็ต้องลองเลย รับรองว่ามีกิจกรรมให้คุณทำกันอย่างสนุกสนาน หรือจะพักผ่อนแบบสบาย ๆ ก็ได้

จองผ่านไลน์

QR Funnytrip

@funnytrip

จองทัวร์

เที่ยวอิตาลี 10 วัน ลงไปอิตาลีใต้ สำรวจความงามชายฝั่งอมาลฟี่
0 ฿
ชื่อ *
Email *
หมายเลขโทรศัพท์ *
วันเดินทาง *
จำนวนผู้เดินทาง *
Line id *
ยอดรวม 
0.00
 ฿