ฝรั่งเศส ดินแดนในฝันที่มาพร้อมกลิ่นอายของความโรแมนติก ความคลาสสิก และความหรูหรา ไม่ว่าคุณจะเป็ผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบไหน ประเทศนี้มีประสบการณ์หลากหลายให้กับนักเดินทางได้อย่างครบครัน สำหรับคนที่อยากไปเที่ยวฝรั่งเศสไปครั้งแรก แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน? บทความนี้จะพาคุณไปเช็ค List 9 สถานที่ แบบครบทุกแลนด์มาร์กเด็ด ๆ ที่ห้ามพลาดในฝรั่งเศส พร้อม Trick เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องง่ายและน่าประทับใจยิ่งขึ้น ไปเที่ยวฝรั่งเศส
1. ไปเที่ยวฝรั่งเศส หอไอเฟล (Eiffel Tower)
หอไอเฟล ไม่ได้เป็นเพียงแค่แลนด์มาร์กสำคัญของปารีส แต่ยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่คนทั่วโลกจดจำได้ทันทีเมื่อพูดถึงฝรั่งเศส หอแห่งนี้ สร้างขึ้นในปี 1889 เพื่อเฉลิมฉลองงานนิทรรศการโลก (World’s Fair) และครบรอบ 100 ปีของการปฏิวัติฝรั่งเศส หอแห่งนี้ยังเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ขัดสายตา แต่ใครจะรู้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนมุมมองจนทำให้หอไอเฟลกลายเป็นจุดเช็กอินที่ต้องมาให้ได้ในชีวิต
ทำไมต้อง ไปเที่ยวฝรั่งเศส ที่หอไอเฟล?
ไปเที่ยวฝรั่งเศสครั้งแรกแล้วไม่แวะที่นี่ก็เหมือนไม่ได้มา หอไอเฟลคือจุดที่ความฝันกับความจริงมาบรรจบกัน ทุกคนรู้จักหอไอเฟลในฐานะแลนด์มาร์กที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ด้วยความสูงถึง 330 เมตร โครงสร้างเหล็กของหอไอเฟลไม่เพียงแต่สะท้อนความอลังการของวิศวกรรมในยุคนั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิวที่สวยที่สุดของปารีสจากทั้ง 3 ชั้นของหอ วิวพาโนรามา 360 องศาของปารีส
คุณสามารถเห็นแม่น้ำแซน ตึกประวัติศาสตร์ และบรรยากาศของมหานครแห่งแสงไฟได้จากมุมมองที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้ ยิ่งในยามค่ำคืน หอไอเฟลจะเปล่งแสงระยิบระยับทุก ๆ ชั่วโมง เป็นบรรยากาศที่ใครได้เห็นก็ต้องตกหลุมรัก นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับดินเนอร์สุดหรูที่ร้านอาหาร Le Jules Verne ซึ่งตั้งอยู่ในชั้นสองของหอ เพลิดเพลินกับอาหารฝรั่งเศสเลิศรสไปพร้อมกับวิวที่สวยที่สุดในโลก
2. พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum)
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ตั้งอยู่ในพระราชวังลูฟวร์ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ฝรั่งเศส ก่อตั้งเมื่อในปี 1793 ตัวอาคารเป็นสไตล์เรเนซองส์ที่งดงามผสานกับพีระมิดแก้วที่ตั้งเด่นอยู่ด้านหน้าสร้างความแตกต่างที่ลงตัวจนกลายเป็นเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่เดินทางมายังกรุงปารีสครั้งแรก ไม่ว่าคุณจะเป็นสายศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือแค่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของเมืองแห่งแสงสว่าง ลูฟวร์จะทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของศิลปะระดับโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย
ทำไมต้องไปที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์?
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ คือหัวใจสำคัญของปารีสสำหรับคนรักศิลปะและประวัติศาสตร์ มีผลงานศิลปะมากกว่า 35,000 ชิ้น ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 ไม่ว่าคุณจะสนใจศิลปะอียิปต์โบราณ กรีก โรมัน หรือศิลปะตะวันออก พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีทุกอย่างที่คุณอยากชื่นชม และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ “โมนาลิซา” ภาพเขียนระดับโลก ภาพวาดปริศนาที่มีรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ ที่วาด โดย เลโอนาร์โด ดา วินชี ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาที่นี่ ด้วยพื้นที่กว่า 72,000 ตารางเมตร คุณอาจใช้เวลาตลอดทั้งวันก็ยังไม่สามารถเดินดูครบทุกผลงาน บอกเลยว่ามีผลงานเยอะจริง ๆ ทุกซอกทุกมุม ทุกรายละเอียดในพิพิธภัณฑ์เต็มไปด้วยความงดงาม ไม่ว่าจะเป็นเพดานหรือทางเดิน ล้วนแต่เป็นศิลปะ เหมาะกับเป็นแหล่ง
3. พระราชวังแวร์ซายส์ (Palace of Versailles)
ความอลังการที่ยากจะหาอะไรเปรียบได้ในโลกของราชวงศ์ ตัวพระราชวังนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ แต่ยังสะท้อนถึงความมั่งคั่ง ความยิ่งใหญ่ และศิลปะสถาปัตยกรรมในยุคของกษัตริย์หลุยส์ที่ 14 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เดิมทีพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นเพียงที่พักล่าสัตว์เล็ก ๆ ก่อนที่กษัตริย์หลุยส์ที่ 14 จะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นศูนย์กลางของการเมืองและวัฒนธรรมในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึง 18 ปัจจุบันแวร์ซายส์กลายเป็นมรดกโลกที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัสให้ได้
ทำไมต้องไปที่พระราชวังแวร์ซายส์?
พระราชวังแวร์ซายส์ไม่ใช่แค่สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส แต่ยังเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่สะท้อนถึงความมั่งคั่งและอำนาจในยุคหนึ่งของฝรั่งเศส ด้วยความอลังการของตัวอาคาร สวนที่กว้างขวางประมาณ 2,000 ไร่ และการตกแต่งที่ประณีตทุกตารางนิ้ว มีทั้งน้ำพุ ลานกว้าง และเขาวงกตดอกไม้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องมาเยือน นอกจากนี้แล้วที่นี่ยังมีการแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และชีวิตของคนชั้นสูงในยุคนั้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้คุณเข้าใจความเป็นฝรั่งเศสมากยิ่งขึ้น
4. มงแซงมิเชล (Mont Saint-Michel)
มงแซงมิเชล ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา แต่คือปรากฏการณ์ที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันสร้างขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่งดงามที่สุดของฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 708 โดยบิชอปแห่ง อาฟร็องเชส์ ซึ่งเป็นเกาะกลางทะเลที่มีโบสถ์โกธิกตั้งตระหง่านและล้อมรอบด้วยน้ำขึ้นน้ำลงที่สร้างภาพเหมือนหลุดจากเทพนิยาย และค่อย ๆ ขยายตัวจนกลายเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาและป้อมปราการในยุคกลาง มหาวิหารแห่งนี้เป็นปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องมาเยือน
ทำไมต้องไปที่มงแซงมิเชล?
มงแซงมิเชล เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของศาสนาคริสต์ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าทึ่งที่สุดในฝรั่งเศส เกาะกลางทะเลที่มีโบสถ์โกธิกสุดอลังการตั้งอยู่บนยอดนี้ดูราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย และถูกยกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1979 เอกลักษณ์ ของที่นี่คือการตั้งอยู่บนเกาะหินที่ล้อมรอบด้วยทะเลที่หาที่ใดในโลกไม่ได้ ซึ่งในบางครั้งน้ำทะเลขึ้นสูงจะทำให้ที่นี่ดูเหมือนเกาะลอยน้ำ และเมื่อน้ำทะเลลดลง คุณสามารถเดินข้ามสะพานไปยังเกาะได้ทำให้ที่นี้สวยงามและน่าอัศจรรย์ สถาปัตยกรรมของมหาวิหารแห่งนี้ถูกออกแบบในแบบโกธิกที่สอดคล้องกับธรรมชาติของเกาะและเป็นจุดที่คุณสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา
5. โบสถ์นอเทรอดาม (Notre-Dame de Paris)
โบสถ์นอเทรอดาม หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วิหารพระแม่แห่งปารีส” โบสถ์แห่งนี้เป็นพยานในเหตุการณ์สำคัญหลายช่วงของประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส เช่น การราชาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียน พิธีสำคัญทางศาสนา และการฉลองอิสรภาพในยุคสงครามโลก เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่โด่งดังที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส ริมแม่น้ำแซน ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกอันวิจิตรและเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์กว่า 850 ปี ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องมาเยือน
ทำไมต้องไปที่โบสถ์นอเทรอดา?
โบสถ์นอเทรอดามสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1163 และใช้เวลาถึง 200 ปีในการก่อสร้าง โครงสร้างของโบสถ์โดดเด่นด้วยหอคอยคู่สูง 69 เมตร รูปปั้นปิศาจการ์กอยล์ (Gargoyles) ที่ประดับอยู่ตามส่วนต่าง ๆ และหน้าต่างกระจกสีทรงกลม (Rose Window) ที่งดงาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโกธิก แม้ว่าคุณจะไม่สามารถเข้าชมภายในได้เต็มที่ แต่บริเวณรอบ ๆ โบสถ์ก็มีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูป โดยเฉพาะจากสะพาน Pont de l’Archevêché คุณจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของกรุงปารีส เห็นแม่น้ำแซน หอไอเฟล และความงดงามของเมืองแห่งแสงในช่วงเย็นจะมีแสงไฟที่สร้างบรรยากาศโรแมนติก
6. ไปเที่ยวฝรั่งเศส เมืองโกลมาร์ (Colmar)
เมืองโกลมาร์ (Colmar) เป็นเมืองเล็ก ๆ ในแคว้นอัลซาส (Alsace) ที่มีเสน่ห์เกินบรรยายจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในเมืองที่โรแมนติกที่สุดในฝรั่งเศส จนได้ฉายาว่า “ลิตเติลเวนิส” ด้วยบ้านเรือนสไตล์โบราณที่มีสีพาสเทลสดใส เรียงรายริมคลอง ถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน และดอกไม้ที่ประดับตกแต่งทุกมุม คลองที่ลัดเลาะผ่านใจกลางเมือง ทำให้เมืองแห่งนี้เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย
ทำไมต้อง ไปเที่ยวฝรั่งเศส ที่เมืองโกลมาร์?
เมืองนี้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยายกาศและวิวที่โรแมนติก ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องไวน์ขาวคุณภาพเยี่ยม โดยเฉพาะ ไวน์ Riesling และ ไวน์ Gewürztraminer นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชิมไวน์ในบรรยากาศชนบทที่เงียบสงบ เมืองนี้ยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะที่เลอค่าในสไตล์เรเนซองส์ อย่าง Maison Pfister บ้านไม้ครึ่งปูนสุดโดดเด่น และโบสถ์ Saint-Martin ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13
คุณสามารถเดินเล่นริมคลองเพื่อสัมผัสบรรยากาศเมืองและถ่ายภาพบ้านเรือนสีสันสดใส หรือจะนั่งเรือ กอนโดลาเพื่อชมเมืองจากมุมมองที่ต่างออกไป นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Unterlinden ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่า ในช่วงปลายปี โกลมาร์จะกลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งคริสต์มาส ด้วยตลาดคริสต์มาสที่เต็มไปด้วยแสงไฟและสินค้าท้องถิ่นที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับสินค้าและอาหารพื้นเมือง
7. ทะเลสาบแอนซี (Lake Annecy)
ทะเลสาบแอนซี ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่ใสสะอาดที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ในแคว้นโอต-ซาวัว (Haute-Savoie) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน ท่องธรรมชาติ หรือแม้แต่ทำกิจกรรมกลางแจ้งในบรรยากาศที่รายล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบแอนซียังล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ซึ่งสร้างฉากหลังที่สวยงามไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม อย่างฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกไม้บาน ฤดูร้อนเหมาะกับกิจกรรมทางน้ำ ส่วนฤดูหนาวก็มีบรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะกับคนที่อยากไปพักผ่อน
ทำไมต้องไปที่ทะเลสาบแอนซี?
ทะเลสาบแอนซีเป็นที่เลื่องลือเรื่องความสะอาดและน้ำใสสีฟ้าคราม ซึ่งเป็นผลมาจากการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างดีของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 1960 นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำ พายเรือ หรือแค่ชมวิวริมทะเลสาบ และยังมีเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ให้คุณสำรวจเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบโบราณ มีคลองเล็ก ๆ ที่ลัดเลาะผ่านใจกลางเมือง
พร้อมด้วยอาคารเก่าแก่สไตล์เรอเนซอง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลล์ที่ชอบนั่งพักผ่อนชมวิว หรือสายลุยที่ชอบกิจกรรมผาดโผน ทะเลสาบแอนซีก็มีทุกอย่าง ตั้งแต่การพายเรือ ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบไปจนถึงการเล่นพาราไกลด์ดิ้ง นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองอย่าง Tartiflette หรือ Fondue Savoyarde ให้คุณได้ลิ้มลองจากร้านท้องถิ่น
8. โพรวองซ์ (Provence)
แคว้นโพรวองซ์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ วัฒนธรรม และการพักผ่อน อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยทุ่งลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งที่สวยงามที่สุดในโลก หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด และไร่องุ่นที่ผลิตไวน์ชั้นเลิศ ที่นี่ยังมีเทศกาลที่ไม่เหมือนใคร บรรยากาศที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวาย
ทำไมต้องไปที่โพรวองซ์?
โพรวองซ์ขึ้นชื่อในเรื่องของทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยงามที่สุดในโลก โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม ทุ่งดอกไม้สีม่วงที่ปลิวไสวไปตามสายลมเป็นภาพที่น่าจดจำ คุณสามารถมาชมและถ่ายภาพความสวยงามของทุ่งดอกไมม้สีสันสดใสในแคว้นแห่งนี้ ที่นี่ยังมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ยังคงความงดงามแบบดั้งเดิม
เช่น Gordes หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขา และ Roussillon ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสีโทนอุ่นจากหินธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ภูมิประเทศชนบทที่สวยงาม โพรวองซ์ยังมีชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สะอาดและเงียบสงบ เช่น Cassis ที่มีหน้าผาสูงชันและทะเลใสแจ๋ว นอกจากลาเวนเดอร์แล้ว โพรวองซ์ยังเป็นแหล่งผลิตไวน์โรเซ่ที่ดีที่สุดในฝรั่งเศส นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมไร่องุ่น ชิมไวน์ และเรียนรู้กระบวนการผลิตไวน์จากท้องถิ่น
9. นีซ (Nice)
นีซ เป็นหนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดของ French Riviera หรือ โกตดาซูร์ (Côte d’Azur) ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความอบอุ่น เมืองที่เหมาะกับการไปพักผ่อนจากเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยแสงแดด ชายหาดสวยงามทอดยาวริมทะเล และมีทัศนียภาพของเส้นขอบฟ้าที่ตัดกับเนินเขา ทำให้ชายหาดในนีซเหมาะสำหรับการพักผ่อน และมีเสน่ห์แบบเมืองเมดิเตอร์เรเนียนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ทำไมต้อง ไปเที่ยวฝรั่งเศส นีซ?
นีซ เป็นแหล่งพักผ่อนตากอากาศที่มีทัศนีภาพที่สวยทั้งธรรมชาติและเมือง ซึ่งเหมาะสำหรับการพักผ่อน เดินเล่น หรือดำน้ำ อย่างเช่น ถนน Promenade des Anglais ถนนริมทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดของนีซ คุณสามารถเดินเล่น วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือแค่พักผ่อนบนม้านั่งเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลสีฟ้าใส ในย่านเมืองเก่าของนีซก็น่าสนใจด้วยถนนเส้น ๆ ที่ปูด้วยหินและอาคารสีสันสดใส
ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ตลาดนัด และคาเฟ่ที่น่ารักตลอดเส้นทาง นอกจากนี้อาหารของที่นี่ก็มีรสชาติอร่อย เป็นอาหารท้องถิ่นที่ต้องลอง เช่น Salade Niçoise (สลัดปลาทูน่าผสมผักสด) Socca (ขนมแป้งถั่วชิกพีอบแบบดั้งเดิม) หรือ Pissaladière (พิซซ่าหน้าหอมใหญ่และปลาแอนโชวี) นีซจึงเป็นจุดหมายที่ครบเครื่องสำหรับการพักผ่อนริมทะเล พร้อมด้วยกิจกรรมหลากหลายที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
บทสรุป9 สถานที่ สำหรับคนที่ ไปเที่ยวฝรั่งเศส ครั้งแรก
สถานที่เหล่านี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความงดงามและเสน่ห์ของฝรั่งเศส แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวที่ลึกซึ้งผ่านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่ไม่มีที่ใดเหมือนกันได้ การไปเยือนหอไอเฟลอันยิ่งใหญ่ เดินเล่นริมทะเลที่นีซ หรือชมวิวทุ่งลาเวนเดอร์ในโพรวองซ์ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้การไปเที่ยวฝรั่งเศสครั้งแรกของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจ และถ้าคุณอยากให้การไปเที่ยวครั้งแรกของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด
ตั้งแต่การเดินทางไปจนถึงการเข้าถึงไฮไลต์ของแต่ละเมือง การเดินทางกับทัวร์ที่เชี่ยวชาญคือคำตอบที่ดีที่สุด เพราะทัวร์จะช่วยวางแผนให้คุณได้สัมผัสทุกจุดหมายอย่างคุ้มค่าและประทับใจที่สุด พร้อมทีมงานที่คอยดูแลทุกขั้นตอน ให้คุณได้สนุกกับฝรั่งเศสแบบไร้ความกังวล ปรึกษาเรื่องการเดินทางได้ฟรี ๆ ที่ Funnytrip Holiday คลิกเลย!
