มีใครวางแผนไปเที่ยวเบลเยี่ยมกันอยู่บ้างหรือเปล่า? หากใครที่กำลังสนใจการท่องเที่ยวในประเทศเบลเยี่ยม วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักประเทศนี้ให้มากกว่าเดิม โดยเบลเยี่ยมเป็นประเทศที่อยู่ในแถบตะวันตกของยุโรป มีพรมแดนที่ติดกับประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก โดยภาษาที่ใช้ในประเทศเบลเยี่ยมมีภาษาทางการ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาดัตช์ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน ซึ่งคนเบลเยี่ยมโดยส่วนใหญ่สามารถพูดได้มากกว่า 1 ภาษา และยังสื่อสารภาษาอังกฤษได้ สำหรับเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ของเบลเยี่ยมก็มีการ เที่ยวบรัสเซลส์ บรูจซ์ เกนต์ แอนต์เวิร์ป เป็นต้น โดยวันนี้เราจะพาไปเจอะลึกการกับท่องเที่ยวในกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเบลเยี่ยม ว่าที่นี่จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง แลนด์มาร์กไหนที่ห้ามพลาดในการมาเยือน
เมืองเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ เที่ยวบรัสเซลส์ ศูนย์กลางสหภาพยุโรป
บรัสเซลส์เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยมที่มีความสำคัญทั้งในเรื่องของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และในเรื่องของการเมืองระดับโลก ทั้งเป็นที่ตั้งของสหภาพยุโรป (EU) และที่ตั้งขององค์กรนาโต้ (NATO) เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของยุโรป ซึ่งการเที่ยวบรัสเซลส์เป็นอีกเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนต่างแวะเวียนมา ถึงแม้จะเป็นเมืองหลวงขนาดเล็ก แต่ก็มีสถาปัตยกรรม งานศิลปะ ที่สวยงามไม่แพ้กับที่ไหน และเป็นเอกลักษณ์ของเมือง โดยผู้ที่มาเยือนเบลเยี่ยมจะเลือกเที่ยวบรัสเซลส์แบบ 1 day trip แล้วไปกันต่อที่เมืองอื่น ๆ ก็ได้ เป็นอีกเมืองที่มีความครึกครื้น มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย โดยความเป็นมาของเมืองนี้ ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 ซึ่งเป็นช่วงยุคกลาง และเจริญเติบโตเป็นศูนย์กลางในด้านการค้า และศิลปะในยุคฟลานเดอร์สเจริญรุ่งเรือง ส่วนในยุคจักรวรรดินั้นเบลเยี่ยมได้อยู่ภายใต้การปกครองของสเปน ออสเตรีย และฝรั่งเศส ทำให้ได้รับอิทธิพลทางศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม เมืองมีการประกาศเอกราช บรัสเซลส์ก็ยังกลายเป็นศูนย์กลางสิ่งสำคัญต่าง ๆ ของประเทศทั้งการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
7 แลนด์มาร์ก เที่ยวบรัสเซลส์ สถานที่ยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด
หากพูดถึงสถานที่เที่ยวบรัสเซลส์ แลนด์มาร์กสำคัญที่หลายคนนึกถึงคงจะเป็นอะโตเมียม สถาปัตยกรรมรูปร่างแปลกตาที่สร้างขึ้นมาในปี 1958 แต่ที่นี่ไม่ใช่สถานที่เดียวเท่านั้นที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเมืองนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆ อีกมากมายที่อยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้รู้จัก ซึ่งมีสถานที่ต่าง ๆ ดังนี้
- จัตุรัสกรองด์ปลาซ (Grand Place)
จัตุรัสกลางกรุงบรัสเซลส์ ที่มีอายุกว่า 400 ปี เป็นสถานที่ที่เมื่อใครมาที่นี่ก็ต้องมาเยี่ยมเยือนกัน เพราะถือว่าเป็นจัตุรัสที่สวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของยุโรป แวดล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ในเมืองซึ่งมีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม ทั้งอาคารเก่าสไตล์บาโรก โกธิก และนีโอโกธิก ซึ่งอาคารส่วนใหญ่นั้นสร้างมาตั้งแต่ยุคกลาง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลพรมดอกไม้ ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญและยิ่งใหญ่ของประเทศเบลเยี่ยม
- ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall)
อาคารในเขตจัตุรัสกรองด์ปลาซที่มีสถาปัตยกรรมในแบบสไตล์โกธิกดั้งเดิมหลงเหลืออยู่บางส่วน เพราะอาคารแห่งนี้มีการถูกต่อเติม เปลี่ยนแปลงจากกลุ่มคนในแต่ละยุค โดยอาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 เพื่อใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาลประจำเมือง ซึ่งต่อมาก็ได้มีการต่อเติมจากสถาปนิกถึง 3 คน ก่อนที่จะเกิดช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส ที่ทำให้อาคารเกิดความเสียหาย จึงได้มีการบูรณะใหม่ เกิดเป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างโกธิกและบาโรก ซึ่งยังคงความสวยงาม และสมบูรณ์จนถึงปัจจุบันนี้
- สวนจูบิลี่ (Jubilee Park)
สวนสาธารณะที่มีความใหญ่กว่า 74 เอเคอร์ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางบรัสเซลส์ สถานที่แห่งนี้ยังล้อมไปด้วยพิพิธภัณฑ์ สถานที่ท่องเที่ยว และประตูชัย เป็นสถานที่สำหรับการเดินชมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ชมประติมากรรมภายในสวน จัดกิจกรรมของเมือง และการพักผ่อนหย่อนใจ โดยสวนแห่งนี้แต่เดิมจะใช้เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกายสำหรับกองทหารรักษาการณ์ ซึ่งต่อมาพระเจ้าเลออปอลที่ 2 ได้สั่งให้สร้างสวนแห่งนี้เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การประกาศอิสรภาพของประเทศเบลเยี่ยม
- เมาท์ เดส อาร์ต (Mont des Arts)
เนินเขาแห่งศิลปะ ซึ่งเป็นย่านศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญประจำเมือง แต่เดิมแล้วเป็นย่านพักอาศัยที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมือง โดยช่วงปลายศตวรรษที่ 19 พระเจ้าเลออปอลที่ 2 ได้มีการเปลี่ยนที่ตรงนี้ให้ย่านศิลปะ จึงได้มีการออกแบบ วางผังเมือง อาคารสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ตรงนี้ใหม่ แต่ก็เกิดความขัดแย้งกับนายกเทศมนตรีเมืองบรัสเซลส์ในตอนนั้น เพราะต้องการรักษาพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นที่อาศัยต่อไปจนต้องลาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะได้มีการสร้างและปรับปรุงสถานที่ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะร่วมสมัยที่โดดเด่นที่สุด เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันอย่างล้นหลาม
- มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา (Cathedral of St. Michael and St. Gudula)
มหาวิหารในสไตล์สถาปัตยกรรมโกธิก สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเบลเยี่ยม โดยอยู่คู่เมืองบรัสเซลส์มาตั้งศตวรรษที่ 13 โดยได้มีการบูรณะมหาวิหารแห่งนี้ในปี 1980 ทำให้พบว่ามีซากของอาคารที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์โรมัน โดยมีการสร้างทับกันขึ้นมา ที่นี่เป็นสถานประกอบพิธีหลักของบรรดาราชวงศ์และบุคคลสำคัญของประเทศ ภายในมีการประดับกระจกสี พื้นที่ส่วนกลางประดับด้วยเสาหินประติมากรรมอัครสาวกทั้ง 12 ของพระเยซู มีระฆังจำนวน 49 ใบ ที่รวมกันเป็นคาริลที่จะลั่นเสียงไล่เรียงตามลำดับ
- พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum)
อาคารแมซงดูว์รัว อาคารมรดกโลกที่จัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบรัสเซลส์มาตั้งแต่ปี 1887 นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมภายนอกแบบนีโอโกธิกแล้ว ภายในยังนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ของเมือง มีของที่นำมาจัดแสดงกว่า 7,000 ชิ้น ทั้งประติมากรรม ภาพวาด เครื่องแต่งกาย สิ่งทอ อีกทั้งยังมีการรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเมืองเอาไว้ และยังมีนิทรรศการหมุนเวียนมาจัดแสดงให้ได้ดูกันอีกมากมาย
- อาคารอะโตเมียม (Atomium Building)
สถาปัตยกรรมล้ำยุคที่กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ และสิ่งที่หลาย ๆ คนจดจำเมื่อพูดถึงเมืองบรัสเซลส์ โดยอะโตเมียมเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของอะตอมในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการงานเอ็กซ์โปในปี 1958 เป็นลูกบอลทรงกลมจำนวน 9 ลูก เชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างทรงกระบอก โดยที่นี่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในประเทศเบลเยี่ยมหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2
สรุป
การท่องเที่ยวบรัสเซลส์ เมืองหลวงแสนสวยของเบลเยี่ยม เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากมาเที่ยวกันแบบชิลล์ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ด้วยเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย และมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่งดงามอยู่หลายสถานที่ นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับไวน์และเบียร์คุณภาพ ช็อกโกแลตแสนอร่อย และวาฟเฟิลหอมกรุ่นอาหารขึ้นชื่อ พร้อมพบความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างอิทธิพลดัตช์และฝรั่งเศส ด้วยความเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของสหภาพยุโรป บรัสเซลส์จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์