สะพานหินโบราณที่ทอดตัวยาวเชื่อมสองฝั่งเมือง เมื่อแสงอาทิตย์แรกแต้มสัมผัสบนเสาหินและรูปปั้นนักบุญที่เรียงรายตลอดแนวสะพาน ภาพอันงดงามของ สะพานชาร์ลส์ (charles bridge) ก็ปรากฏขึ้นในความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีสะพานใดในโลกเทียบได้ สะพานแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางสัญจรที่เชื่อมต่อระหว่างย่านเมืองเก่ากับย่านมาลาสตรานา และปราสาทปรากเท่านั้น แต่ยังเป็นประจักษ์พยานแห่งกาลเวลาที่หลอมรวมศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
เป็นเส้นทางที่กษัตริย์โบฮีเมียเคยเสด็จผ่าน เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการปกป้องเมือง และเป็นแหล่งรวมจิตวิญญาณแห่งความศรัทธาที่สะท้อนผ่านรูปปั้นนักบุญ 30 องค์ที่ประดับตลอดแนวสะพาน ในปัจจุบันสะพานชาร์ลส์ไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปรากเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีแห่งชีวิตที่มีศิลปิน นักดนตรี และผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาหลอมรวมกัน เป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดของตัวเมืองเก่า และเป็นสถานที่ที่คู่รักมาจูบกันเพื่อความเป็นสิริมงคล ภายใต้แสงอาทิตย์อัสดงที่ทอดเงายาวลงบนผืนน้ำวัลตาวาอันเงียบสงบ การเดินข้ามสะพานแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ และจุดหมายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนเมื่อมาเยี่ยมเยือนกรุงปรา
ประวัติ สะพานชาร์ลส์ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของกรุงปรากที่ต้องห้ามพลาด!
หนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน สะพานชาร์ลส์ เริ่มก่อสร้างในปี 1357 ในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์แห่งโบฮีเมียด้วย การก่อสร้างเริ่มขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม 1357 เวลา 5 นาฬิกา 31 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ถูกเลือกโดยนักโหราศาสตร์ราชสำนัก โดยเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาแห่งมงคลที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับสะพาน โดยสะพานแห่งนี้สร้างเสร็จในประมาณปี 1402 รวมเวลาก่อสร้างเกือบ 50 ปี โดยเป็นผลงานของสถาปนิกชื่อปีเตอร์ พาร์เลอร์ แรกเริ่มสะพานมีชื่อว่าสะพานหิน (Stone Bridge) หรือสะพานปราก (Prague Bridge)
ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นสะพานชาร์ลส์ในปี 1870 เพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้ริเริ่มการก่อสร้าง สะพานมีความยาว 516 เมตร และกว้าง 10 เมตร สร้างด้วยหินทรายในสไตล์โกธิก ประกอบด้วยเสาค้ำยัน 16 ต้น โดยเป็นสะพานโค้งที่ไม่มีเหล็กเสริม ซึ่งเป็นเทคนิคการก่อสร้างขั้นสูงในสมัยนั้น จุดเด่นที่สำคัญของสะพานคือรูปปั้นนักบุญ 30 รูป ที่ประดับอยู่ตลอดสองข้างของสะพาน รูปปั้นส่วนใหญ่สร้างขึ้นในช่วงปี 1683 ถึง 1714 ในสไตล์บาโรก โดยเป็นรูปปั้นนักบุญสำคัญในศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก รูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดคือรูปปั้นของนักบุญยอห์นแห่งเนโปมุก (St. John of Nepomuk) ซึ่งมีความเชื่อว่าการแตะรูปปั้นนี้จะนำโชคดีมาให้และทำให้ได้กลับมาเยือนปรากอีกครั้ง
charles bridge ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
สะพานชาร์ลส์มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายประการ ทั้งประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม โดยมีรายละเอียดดังนี้
- เป็นสะพานหินที่เก่าแก่ที่สุดที่ข้ามแม่น้ำวัลตาวาและเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงใช้งานได้ในยุโรป
- เป็นเส้นทางสำคัญในเส้นทางการค้าระหว่างยุโรปตะวันออกและตะวันตก โดยเชื่อมต่อปราสาทปราก (Prague Castle) กับย่านเมืองเก่า (Old Town)
- เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาในสาธารณรัฐเช็ก โดยรูปปั้นบนสะพานสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นฟูศาสนาคาทอลิกหลังยุคสงครามสามสิบปี
- เป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์การต่อสู้ของชาวเช็ก หลายครั้งที่สะพานเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงการปะทะกันระหว่างนักศึกษากับทหารในช่วงฤดูใบไม้ผลิแห่งปราก (Prague Spring) ในปี 1968
- ปัจจุบันสะพานชาร์ลส์เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงปราก โดยมีศิลปินวาดรูป นักดนตรี และร้านค้าของที่ระลึกมากมายตั้งอยู่บนสะพาน นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สะพานแห่งนี้ เพราะให้ทัศนียภาพที่งดงามของแม่น้ำวัลตาวาและตัวเมืองปราก
สถานที่สำคัญใกล้เคียง สะพานชาร์ลส์ เดินท่องเที่ยวกรุงปราก
สะพานชาร์ลส์ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางของกรุงปราก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายได้ด้วยการเดินเท้า เมื่อนักท่องเที่ยวก้าวข้าม charles bridge แล้ว พวกเขาจะได้สัมผัสกับความงดงามของสถานที่ต่างๆ ที่มีความสำคัญ ซึ่งแต่ละแห่งมีประวัติศาสตร์และเสน่ห์เป็นของตัวเอง โดยมีสถานที่อื่น ๆ แนะนำดังนี้
- ปราสาทปราก (Prague Castle): ปราสาทโบราณขนาดใหญ่ที่เป็นที่ประทับของประธานาธิบดีเช็กในปัจจุบัน ภายในมีโบสถ์เซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) ที่งดงาม
- จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square): จัตุรัสประวัติศาสตร์ที่มีนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) อันมีชื่อเสียง และโบสถ์ทินชุร์ช (Týn Church)
- ย่านมาลาสตรานา (Malá Strana): ย่านเมืองเก่าที่สวยงามตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวัลตาวา มีสถาปัตยกรรมบาโรกและสวนสาธารณะที่งดงาม
- หอคอยสะพานเมืองเก่า (Old Town Bridge Tower): หอคอยโกธิdที่เป็นประตูสู่สะพานชาร์ลส์ฝั่งเมืองเก่า ให้วิวพาโนรามาของสะพานและเมือง
- พิพิธภัณฑ์คาฟคา (Kafka Museum): พิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับนักเขียนชื่อดังฟรานซ์ คาฟคา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพาน
- โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church): โบสถ์บาโรกที่งดงามในย่านมาลาสตรานา มีการตกแต่งภายในที่หรูหรา
- เกาะคัมปา (Kampa Island): เกาะเล็ก ๆ ริมแม่น้ำใกล้กับสะพาน มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยและสวนที่สวยงาม
สรุป
สะพานชาร์ลส์ไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามในตัวเอง แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์หลักของกรุงปราก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างสะดวก หากคุณกำลังจะไปทัวร์เช็ก ลองเริ่มต้นการท่องเที่ยวของคุณที่สะพานแห่งนี้ แล้วเดินค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ กันได้ด้วยตนเอง อาจทำให้การท่องเที่ยวของคุณสนุก ได้ใกล้ชิดกับคนท้องถิ่น และทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้น่าจดจำมากยิ่งขึ้น
