ท่ามกลางสายน้ำคดเคี้ยวของแม่น้ำวัลตาวาในแคว้นโบฮีเมียใต้ มีเมืองเล็กๆ ที่เปรียบเสมือนภาพวาดจากนิทานที่มีชีวิต นั่นคือ เชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov) เมืองมรดกโลกเช็ก ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในยุโรปกลาง และเป็นอัญมณีล้ำค่าแห่งสาธารณรัฐเช็ก เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นหลังคากระเบื้องสีส้มอิฐเรียงรายบนอาคารยุคกลางและเรเนซองส์ ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและสีเขียวของธรรมชาติโดยรอบ โดยมีปราสาทอันยิ่งใหญ่ตั้งตระหง่านบนเนินสูง เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความรุ่งเรืองในอดีต เมื่อเดินเข้าสู่เมืองเก่า ผู้มาเยือนจะรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปหลายร้อยปี ตรอกซอกซอยปูด้วยหินเก่าแก่ อาคารหลากสีสันที่ได้รับการดูแลอย่างดี จัตุรัสประวัติศาสตร์ที่ยังคงชีวิตชีวา และปราสาทอันยิ่งใหญ่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากปราสาทปรากเท่านั้น ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่บอกเล่าเรื่องราวแห่งอดีตอันรุ่งเรือง ที่แห่งนี้จึงไม่เพียงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสมบัติล้ำค่าของมวลมนุษยชาติที่จารึกไว้ซึ่งคุณค่าแห่งอดีตและส่งต่อมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าสู่คนรุ่นต่อไป
ประวัติความเป็นมา เชสกี้ ครุมลอฟ ก่อนเป็นเมืองมรดกโลกเช็ก
เชสกี้ ครุมลอฟมีประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 13 เมื่อตระกูลวิตโกเวค (Vítkovci) สร้างปราสาทขึ้นเหนือแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ในช่วงปี 1240 ชื่อเมืองครุมลอฟมาจากภาษาเยอรมันโบราณ ซึ่งมีความหมายว่าทุ่งหญ้าบนแม่น้ำที่คดเคี้ยวสะท้อนถึงลักษณะภูมิประเทศที่แม่น้ำวัลตาวาไหลวนรอบเมืองเป็นรูปตัว S ซึ่งในปี 1302 ตระกูลโรเซนเบิร์ก (Rosenberg) ได้เข้าครอบครองเมืองและปกครองยาวนานกว่า 300 ปี ทำให้เมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ต่อมาในปี 1602 จักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 ได้มอบเมืองให้กับตระกูลเอ็กเกนเบิร์ก (Eggenberg) และสุดท้ายตกเป็นของตระกูลชวาร์เซนเบิร์ก (Schwarzenberg) ในปี 1719 จนถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
เมืองนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเชโกสโลวาเกีย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกผนวกเข้ากับเยอรมนีนาซี และหลังสงครามได้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของเชโกสโลวาเกียอีกครั้ง ภายใต้การปกครองของคอมมิวนิสต์ เมืองถูกละเลยทำให้อาคารหลายแห่งทรุดโทรม จนกระทั่งหลังการปฏิวัติกำมะหยี่ในปี 1989 และการแยกตัวเป็นสาธารณรัฐเช็กในปี 1993 เมืองจึงได้รับการบูรณะและพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลกเช็ก ตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งเมืองนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งโบฮีเมีย
เมืองมรดกโลกเช็ก ความสำคัญของเมือง เชสกี้ ครุมลอฟ
เชสกี้ ครุมลอฟมีความสำคัญอย่างยิ่งในด้านต่าง ๆ เพราะได้ชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลกเช็ก เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และยังคงรักษากลิ่นอายของยุคเก่าไว้ได้อย่างดี โดยมีความสำคัญดังนี้
- เป็นตัวอย่างเมืองยุคกลางที่สมบูรณ์: เมืองนี้เป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของเมืองยุคกลางในยุโรปกลางที่มีการอนุรักษ์ผังเมือง โครงสร้างอาคาร และสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์
- คุณค่าทางสถาปัตยกรรม: มีการผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมหลากหลายสมัย ทั้งโกธิก เรเนซองส์ บาโรก และโรโคโค ซึ่งสะท้อนพัฒนาการทางศิลปะและสถาปัตยกรรมของยุโรปกลางตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถึง 18
- ความสำคัญทางการค้า: ในอดีตเมืองเป็นจุดเชื่อมต่อการค้าที่สำคัญระหว่างโบฮีเมีย ออสเตรีย และบาวาเรีย โดยเฉพาะการค้าเกลือและผ้า
- มรดกทางวัฒนธรรม: เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศิลปะสมัยเรเนซองส์ ภายใต้การอุปถัมภ์ของตระกูลโรเซนเบิร์ก ทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมและศิลปะอย่างมาก
- ความสัมพันธ์กับธรรมชาติ: เมืองถูกสร้างให้กลมกลืนกับภูมิประเทศโดยรอบ โดยเฉพาะการวางผังเมืองตามการไหลคดเคี้ยวของแม่น้ำวัลตาวา แสดงถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเชสกี้ ครุมลอฟ
การท่องเที่ยวที่เชสกี้ ครุมลอฟเปรียบเสมือนการได้เดินเที่ยวในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีชีวิต แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวช่วยให้เราเข้าใจถึงวิถีชีวิต ศิลปะ และสถาปัตยกรรมในยุคกลางของยุโรปได้อย่างลึกซึ้ง โดยมีสถานที่สำคัญและน่าสนใจดังนี้
- ปราสาท เชสกี้ ครุมลอฟ (Český Krumlov Castle)
ปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสาธารณรัฐเช็ก รองจากปราสาทปราก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และมีการขยายในยุคต่อมา ประกอบด้วยอาคารกว่า 40 หลัง 5 ลานปราสาท และสวนขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยหอคอยที่ทาสีสดใส และโรงละครบาโรกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ พร้อมฉากหลังและเครื่องแต่งกายดั้งเดิม - จัตุรัสใจกลางเมืองเก่า (Old Town Square)
จัตุรัสหลักของเมือง เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของที่นี่ โดยถูกล้อมรอบด้วยอาคารเรเนซองส์และบาโรกสีสันสดใส มีน้ำพุกลางจตุรัสและเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง มีร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมขนาดเล็กตั้งอยู่โดยรอบ
โบสถ์เซนต์วิตัส (St. Vitus Church) - โบสถ์โกธิกสำคัญของเมืองสร้างในช่วงปี 1407-1439 เพื่ออุทิศแด่นักบุญวิตัส ผู้เป็นหนึ่งในนักบุญอุปถัมภ์ของโบฮีเมีย แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับมหาวิหารอื่น ๆ ในยุโรป แต่ภายในประดับด้วยงานจิตรกรรมฝาผนังยุคเรเนซองส์และบาโรก รวมถึงแท่นบูชาที่มีความงดงาม ประณีต
- ศูนย์ศิลปะเอกอนชีเลอร์ (Egon Schiele Art Centrum)
ศูนย์ศิลปะสมัยใหม่ที่จัดแสดงผลงานของเอกอน ชีเลอร์ ศิลปินเอกซ์เพรสชันนิสต์ชาวออสเตรียที่เคยพำนักในเมืองนี้ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รวมถึงผลงานของศิลปินร่วมสมัยชื่อดังคนอื่น ๆ - โรงงานกระดาษโบราณ (Historical Paper Mill)
พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงกระบวนการผลิตกระดาษแบบดั้งเดิมตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 นักท่องเที่ยวสามารถชมสาธิตการทำกระดาษด้วยมือและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การพิมพ์
สรุป
เชสกี้ ครุมลอฟเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งยุคกลาง ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และบรรยากาศสุดโรแมนติก ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้สำหรับนักเดินทางเมื่อมาทัวร์เช็ก ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นชมเมือง การชมวิวจากปราสาท หรือการดื่มด่ำกับศิลปะวัฒนธรรมของที่นี่ เมืองนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของยุโรป