หากพูดถึงเมืองที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก บูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ฮังการี คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมคลาสสิกริมแม่น้ำดานูบ บรรยากาศโรแมนติก และมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า เมืองนี้ได้รับฉายาว่าไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ (Pearl of the Danube) และยังเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานอิทธิพลจากยุคกลาง ยุคบาโรก และยุคจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นอกจากวิวสวยระดับโลกที่สามารถสัมผัสได้จากปราสาทบูดา และรัฐสภาฮังการีแล้ว บูดาเปสต์ยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ มีออนเซ็นสไตล์ยุโรปให้แช่ผ่อนคลาย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยอาหารฮังกาเรียนรสชาติเข้มข้นที่ต้องลอง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายประวัติศาสตร์ นักเดินทางสายโรแมนติก หรือคนที่รักความคึกคักของเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสัน เมืองนี้คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางครั้งต่อไปของคุณอย่างแน่นอน ไปดูกันเลยว่าที่นี่มีอะไรบ้ง
เมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮังการี เปิดที่มาของ บูดาเปสต์
บูดาเปสต์ (Budapest) มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี โดยกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวของสามเมืองหลัก ได้แก่ บูดา (Buda) โอบูดา (Óbuda) และเปสต์ (Pest) เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 1873 จนกลายเป็นเมืองหลวงของฮังการีในปัจจุบัน โดยจุดเริ่มต้นของเมืองมีดังนี้
- สมัยโรมัน (Aquincum – อควินคุม)
ในยุคโบราณ บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองโรมันชื่อว่าอควินคุม (Aquincum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของจักรวรรดิโรมันในแคว้นพันโนเนียตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยเห็นได้จากการมีซากโบราณสถานจากยุคโรมัน เช่น โรงอาบน้ำโรมันและโรงละครโบราณ - ยุคกลาง (อาณาจักรฮังการี)
ในช่วงศตวรรษที่ 9 ชนเผ่ามากยาร์ (Magyars) ได้มาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่นี้ และก่อตั้งอาณาจักรฮังการีขึ้นในปี 1000 โดยมีกษัตริย์เซนต์สตีเฟนที่ 1 (St. Stephen I) เป็นผู้สถาปนา โดยเมืองบูดากลายเป็นที่ตั้งของพระราชวังและศูนย์กลางการปกครอง และเมืองเปสต์กลายเป็นศูนย์กลางการค้า - ยุคจักรวรรดิออตโตมัน (ปี 1541-1686)
บูดาตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลากว่า 145 ปี ในช่วงนี้เมืองได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอิสลาม มีการสร้างมัสยิดและโรงอาบน้ำแบบตุรกี ซึ่งบางแห่งยังคงใช้งานได้ในปัจจุบัน เช่น Rudas Baths
- ยุคออสเตรีย-ฮังการี (ปี 1867-1918)
ในปี 1867 จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีถูกก่อตั้งขึ้น และบูดาเปสต์กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีการก่อสร้างอาคารสำคัญ เช่น รัฐสภาฮังการี (Hungarian Parliament) และสะพานเชน (Chain Bridge) - การรวมกันของ 3 เมืองเป็นบูดาเปสต์
ในปี 1873 เมืองบูดา ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดานูบที่มีพระราชวังและเนินเขาสูง เมืองโอบูดา ส่วนเก่าของเมืองที่มีซากอารยธรรมโรมัน และเมืองเปสต์ ฝั่งตะวันออกที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ การค้า และที่อยู่อาศัย ได้รวมตัวกันเป็นเมืองเดียวอย่างเป็นทางการ และใช้ชื่อว่าบูดาเปสต์ - บูดาเปสต์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันบูดาเปสต์เป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมแบบยุโรปคลาสสิก และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของยุโรปกลาง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
เดินทางท่องเที่ยวใน บูดาเปสต์ แลนด์มาร์กที่ต้องแวะไปสักครั้ง
บูดาเปสต์เป็นเมืองที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมในเมืองนี้มีความหลากหลายและน่าประทับใจ ต่อไปนี้คือสถานที่สำคัญและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือน
- ปราสาทบูดา (Buda Castle) พระราชวังประวัติศาสตร์ของกษัตริย์ฮังการี ตั้งอยู่บนเนินเขาปราสาท มีประวัติย้อนไปถึงศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของหอศิลป์แห่งชาติฮังการี (Hungarian National Gallery) และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์ (Budapest History Museum)
- โบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) โบสถ์โรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียงซึ่งตั้งอยู่ในเขตปราสาทบูดา โบสถ์นี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิที่สวยงาม และเคยเป็นสถานที่จัดพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์หลายพระองค์
- ป้อมปราการชาวประมง (Fisherman’s Bastion) สร้างขึ้นในช่วงปี 1895-1902 เป็นจุดชมวิวที่มีหอคอยทรงเทพนิยาย 7 หอที่เป็นตัวแทนของเผ่าฮังการีทั้ง 7 เผ่าที่ก่อตั้งประเทศฮังการี
- เนินเขาเกลเลิร์ต (Gellért Hill) เนินเขาสูง 235 เมตรที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างกว้างไกล บนยอดเขามีรูปปั้นเทพีเสรีภาพ (Liberty Statue) สูง 14 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการปลดปล่อยฮังการีจากการยึดครองของนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2
- อาคารรัฐสภาฮังการี (Hungarian Parliament Building) อาคารที่โดดเด่นที่สุดของบูดาเปสต์ สร้างในสไตล์นีโอโกธิก เป็นอาคารรัฐสภาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ภายในประดับตกแต่งอย่างหรูหรา โดยเฉพาะในห้องโถงกลางที่จัดแสดงมงกุฎศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์แห่งอำนาจของฮังการี
- มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Basilica) มหาวิหารโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในบูดาเปสต์ สามารถจุคนได้ถึง 8,500 คน ภายในเก็บรักษาพระหัตถ์ขวาของนักบุญสตีเฟน กษัตริย์องค์แรกของฮังการี
- จัตุรัสวีรบุรุษ (Heroes’ Square) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 1,000 ปีของการก่อตั้งฮังการี มีอนุสาวรีย์มิลเลนเนียม (Millennium Monument) ที่แสดงรูปปั้นของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ฮังการี
สรุป
สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปท่องเที่ยวยุโรปตะวันออก บูดาเปสต์ คืออีกเมืองที่ต้องห้ามพลาด เพราะเป็นเมืองที่มีทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามของธรรมชาติผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรม การแช่น้ำพุร้อน และการเดินเล่นชมเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ซึ่งการเดินทางจากบูดาเปสต์ไปยังเมืองอื่น ๆ ในประเทศใกล้เคียงอย่างบราติสลาวา สโลวัค หรือไปปราก สาธารณรัฐเช็ก ก็ทำได้ง่าย เดินทางสะดวกด้วยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ไปเที่ยวยุโรปตะวันออกกันทั้งทีก็ต้องไปให้คุ้ม